เกาหลีใต้เตรียมตรวจ โควิด กับ สัตว์เลี้ยง

เกาหลีใต้เตรียมตรวจ โควิด กับ สัตว์เลี้ยง

เกาหลีใต้เตรียมเพิ่มมาตรการป้องกัน โควิด ด้วยการตรวจหาเชื้อกับ สัตว์เลี้ยง เพื่อป้องกันหากสัตว์สามารถแพร่เชื้อสู่คนได้ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว CNN ระบุว่า ทางการในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เตรียมตรวจหาเชื้อโควิดกับสัตว์เลี้ยง เช่นแมวและสุนัข หากเจ้าของป่วยเป็นโรคโควิด-19 ซึ่งการตรวจครั้งนี้จะเกิดขึ้นโดยไม่มีข้อยกเว้น แม้สัตว์เลี้ยงจะไม่แสดงอาการป่วยก็ตาม

ซึ่งหากพบว่าสัตว์เลี้ยงป่วยเป็นโรคโควิด-19 ตัวของสัตว์เลี้ยงเองก็ต้องเข้ารับการกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วันเช่นเดียวกัน

โดยการตรวจหาโควิดกับสัตว์เลี้ยงในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันในกรณีที่สัตว์สามารถแพร่เชื้อโควิดสู่มนุษย์ได้ อย่างไรก็ตามองค์การอนามัยโลกหรือ WHO ระบุว่าขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานว่ามนุษย์สามารถติดโควิดจากสัตว์ได้ อย่างไรก็ตามสัตว์สามารถติดเชื้อจากมนุษย์ได้

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีใต้หรือ KCDC ระบุว่าพวกเขาพบแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงติดโควิดในช่วงวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา  ขณะนี้ประเทศเกาหลีใต้มียอดผู้ป่วยสะสมมากกว่า 8 หมื่นราย และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสแล้วอย่างน้อย 1,400 ศพ

ตำรวจทำการ ฉีดน้ำ ใส่ ม็อบเมียนมา ขณะประชาชนหลายพันคนชุมนุมค้านรัฐประหาร ในกรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของประเทศ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า ตำรวจเมียนมาได้ทำการฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุมในกรุงเนปิดอว์ หลังจากที่ผู้ชุมนุมนับหลายพันคนออกมาชุมนุมประท้วงการก่อรัฐประหารที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยนี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุม นับตั้งแต่การชุมนุมที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจากคลิปที่ได้รับเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ยังแสดงให้เห็นว่าผู้ชุมนุมถูกผลักล้มลงไปจากแรงดันของน้ำ

เจ้าหน้าที่ตำรวจหยุดฉีดน้ำ หลังจากที่ผู้ชุมนุมได้ขอร้องให้ตำรวจหยุดฉีดน้ำ อย่างไรก็ตามการชุมนุมดำเนินต่อไป ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างชัดเจน

ย้อนกลับไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานั้นกองทัพได้ทำการก่อรัฐประหารพร้อมจับกุมนาง อองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ในข้อหาโกงการเลือกตั้งเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา ซึ่งพล.อ. มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมารับปาก จะจัดการเลือกตั้งทันทีหลังยึดอำนาจ 1 ปีตามที่ประกาศเอาไว้

นอกจากนางอองซานซูจีแล้ว นาย วิน มินต์ อดีตประธานาธิบดีเมียนมา ถูกจับกุมและตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายการห้ามชุมนุมในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากเขาได้พบปะกับผู้สนับสนุนเขาที่ออกมาเดินขบวนสนับสนุนในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง

โดยมีรายงานอีกว่าในช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมาทางการเมียนมาได้ทำการตัดการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเพื่อสกัดการออกมาระดมพล อย่างไรก็ตามการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้กลับมาปกติในวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้

ขุดจนเป็นเรื่อง! เหมือง Bitcoin ตัวการ ไฟฟ้าดับ ในเมือง เตหะราน

ขุดถลุงกันจนเป็นเรื่องราว และใหญ่โต กับเหมือง Bitcoin แห่งหนึ่งที่เป็นสาเหตุในการเกิด ไฟฟ้าดับ ณ เมือง เตหะราน ประเทศอิหร่าน เป็นที่รู้กันดีว่าการดำเนินการทำเหมือง Bitcoin เป็นการลงทุนที่นำมาซึ่งปัญหาหลาย ๆ อย่างไม่ว่าจะเป็น การขาดแคลนของการ์ดจอในหลาย ๆ รุ่น รวมไปถึงการใช้งานพลังงานไฟฟ้าอย่างมหาศาลด้วยเช่นกัน ซึ่งก็เกิด ณ เมือง เตหะราน ประเทศอิหร่าน ที่เหมืองแห่งหนึ่งได้เป็นตัวการในการทำให้เกิด ไฟฟ้าดับ ขึ้น

โดยการทำเหมือง Bitcoin นั้นมีความจำเป็นต้องใช้งานพลังงานไฟฟ้าเป็นจำนวนมหาศาล เนื่องด้วยการเปิดใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมาก และเวลานาน รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้งานนั้นมีปรับแต่งให้ทำการรีดประสิทธิภาพออกมาเต็มสูบ 

ซึ่งในเหตุการณ์ไฟฟ้าดับที่เมืองเตหะรานนั้น ไม่ได้เกิดจากเหมืองระดับเล็กทั่วไป หากแต่เกิดจากเหมืองที่มีการดำเนินการในระดับอุตสาหกรรม ที่มีการย้ายฐานมาจากประเทศจีน เนื่องด้วยสาเหตุก็คือในประเทศอิหร่านนั้น สามารถทำการผลิตไฟฟ้าที่มีค่าใช้จ่ายต่ำ ทำให้มีการย้ายฐานการขุดมาจากประเทศแม่ เพราะมองว่ามันเป็นอะไรแลกเปลี่ยนได้คุ้มค่าที่สุด

จากสอบสวนของทางการอิหร่านแล้วนั้น พบว่ามันมีเหมือง Bitcoin ขนาดใหญ่ด้วยกันทั้งหมด 14 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งนั้นได้ทำการใช้งานไฟไปถึง 300 เมกะวัตต์ และได้สูงสุดถึง 450 เมกะวัตต์ ซึ่งก็ถือว่าเป็นปริมาณไฟฟ้าที่เพียงพอต่อเมืองที่มีประชากรถึง 1 แสนคนเลยก็ว่าได้

เนื่องด้วยความที่อิหร่านเป็นประเทศที่มีค่าไฟฟ้าในระดับที่ต่ำ ทำให้มันเป็นเป้าหมายในการมาทำเหมืองขุด Bitcoin เป็นอันดับที่ 6 ของโลกเลยทีเดียว

นอกจากนี้แล้วนั้นการ์ดจอที่บรรดาเหมืองเหล่านี้ได้มีการใช้งาน ไม่ใช่การ์ดจอที่ใช้ขุดเหมืองโดยเฉพาะ หาแต่เป็นการ์ดจอทั่วไป ทำให้มีข้อสงสัยว่าทาง Nvidia และพันธมิตรนั้น ได้มีการขายให้กับบรรดานักขุดเหมืองเหล่านี้โดยตรงเลยหรือไม่ ทั้งนี้แล้วนั้นก็ยังคงไม่มีคำตอบที่แน่ชัดในการสันนิษฐานนี้

ด้วยความที่การ์ดจอนั้นขาดตลาดอย่างต่อเนื่อง จากการกวานซื้อของผู้ใช้งาน Bot และบรรดาผู้ที่ต้องการนำไปใช้งานขุด Bitcoin ทำให้เริ่มมีการจัดการซื้อ Laptop / Notebook มาใช้งานในด้านี้กันบ้างแล้ว ถือว่าเป็นการสร้างปัญญาดังกล่าวไปในอีกทางหนึ่งก็ว่าได้ จึงต้องมาดูกันต่อไปว่า ทาง Nvidia และทาง AMD จะมีการจัดการกับปัญหาตรงนี้ได้อย่างไรบ้าง และสถานการณ์ของการตื่น Bitcoin นี้จะจบลงเมื่อใด ก็ต้องติดตามรอดูกันต่อไปอย่างต่อเนื่อง

แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น